Singapore 2015 Day 3

Singapore 2015 , Day 3
วันที่ 3 และ วันที่ 4
(Review Date : 10 July 2015)

ทริปวันที่ 3 และ 4 รวบเลยค่ะ
วันนี้ไป China Town กันค่ะ ลง MRT สถานี China Town
ไปถึง 9 โมง ร้านพึ่งทะยอยเปิด



เดินทะลุไปอีก 2 ซอย ถนนชื่อ Smith Street
จะเจอร้าน Tak Po Hong Kong Dim Sum


ราคาเบาๆ เข่งละ 1-4 เหรียญ มีให้เลือกสั่งตามนี้ค่ะ จัดไป


ขนมจีบกุ้ง, ข้าวหน้าหมูสับปลาเค็ม, ขนมจีบหมู ,
ไก่ตุ๋นซีอิ๊ว, ขนมจีบเห็ด,ซี่โครงหมูเต้าซี่





และ ขนมจีบกุ้งอีกเข่งสั่งซ้ำเพราะชอบกันค่ะ


อิ่มแล้วลูกอยากกินขนมหวานลองสั่งเมนูแนะนำ
เป็นเหมือนเต้าฮวยเย็น อร่อยดี



ค่าเสียหายมื้อนี้ มีค่าผ้าเย็นด้วยค่ะ (ผ้าเย็นไม่ฟรีเนอะ 0.3
เหรียญ/ห่อ ดีไม่ไปหยิบโต๊ะข้างๆมาใช้เพิ่ม)


อิ่มแล้วก็เดินซื้อของฝากค่ะ ต่อรองราคาได้


แล้วก็กลับไปขึ้น MRT ไปลง สถานี Bugis แถวที่พัก
โผล่ขึ้นไปเป็น Bugis Junction ที่เป็นห้างและร้านรวงต่างๆ
แบบดูดี ติดกับโรงแรม Intercontinental


ก็ช้อปปิ้งเสื้อผ้าและของเก๋ๆกันนิดหน่อย



ชั้นใต้ดินมี supermarket เจอเชอรี่ลดราคา ขีดละ 1.59 เหรียญ
รีบไปโกยเหมือนเจอทอง เอาเก็บไว้ทานก่อนนอนคืนนี้


ใกล้เที่ยงแล้วเดินต่อไปจาก MRT Bugis ประมาณ 15 นาที
ไปถนน Haji Lane เป็นถนนสายสั้นๆ
ที่มีร้านรวงเก๋ๆ ผนังสวยๆ ค่ะ
ส่วนใหญ่ร้านเปิดช่วงหลังบ่ายสองจนถึงดึกๆ นะคะ


มาถึงตอนเที่ยง ก็เริ่มมีเปิดบ้างแล้วค่ะ


ถ่ายรูปเล่นเก็บบรรยากาศ








แวะหลบร้อนเข้าไปที่ร้าน Selfie Coffee ก็เอ๊ะ
มีรูปโชว์หน้าร้านด้วยว่าเครื่องดื่มเป็นรูปหน้าเรา
ตอนแรกคิดว่าเค้าคงมีบริการถ่ายรูปแล้วซ้อนภาพ
แล้วให้ภาพถ่ายให้เก็บเป็นที่ระลึก แต่ไม่ใช่ค่ะ
เค้าจะทำหน้าเครื่องดื่มเป็นรูปหน้าเรา
จากการถ่ายรูปเลย แล้วดื่มได้จริงๆค่ะ


มาดูกัน เมนูตามนี้ ร้อน เย็น ปั่น ทำได้หมด


เพื่อนเลือกกาแฟปั่น ของเราเลือกเป็นชาเขียวปั่น 
จ่ายเงินแก้วละ 8.9 เหรียญ

เสร็จแล้วพนักงานก็จะเอามือถือมาให้เราถ่ายรูปตัวเราเอง
แล้วให้แผ่นกลมๆ เหมือนร้าน ทัมส์ แอนด์ ทัมส์ ค่ะ
ขึ้นไปนั่งชั่น 2 พอเครื่องดื่มเสร็จไฟติดที่อุปกรณ์
เราก็นำมันลงมารับเครื่องดื่มค่ะ ร้านนั่งสบาย แอร์เย็นฉ่ำ


ได้แล้ว ถ่ายรูปหน้าลูกสาวไว้ ออกมาเป๊ะเลย



เจ้าของรูปตกใจเล็กน้อย ว่าหน้าไปอยู่บนชาเขียวปั่น


เอาหลอดจิ้มดูดละน้า
รสชาติเครื่องดื่มเค้าอร่อยด้วยค่ะ ตรงฟองนมจะหวาน
แต่ตัวเครื่องดื่มไม่หวาน เข้ากันพอดี ประทับใจอ่ะ เก๋ดี


หายร้อนแล้วเราก็เดินกลับมาที่ MRT สถานี Bugis
เดินทางไปลง MRT ไปสถานี Promenade


ไป Suntec City กันค่ะ ออกทางออกที่เขียนว่า
Fountain of Wealth หรือ น้ำพุแห่งความมั่งคั่งค่ะ


นั่งดูน้ำพุกันเพลินๆ จำได้กว่าก่อนหน้านี้หลายปีมาเที่ยว 2 ครั้ง
ปิดซ่อมตลอด ครั้งนี้โชคดีละ เจอน้ำพุใช้การได้ ถ้ามาตอนกลางคืน
จะมีแสงสีเสียงโชว์เล็กๆด้วยค่ะ



แล้วก็ลงไปใต้ตึกกัน เข้าไปใจกลางน้ำพุกันบ้าง


แน่นอนว่าจากน้ำพุเราก็เดินเล่นช้อปปิ้งตึกนี้กัน
มีไวน์มาออกบูธลดราคาด้วย เกือบเดินชิมเพลิน
ราคาก็น่าหิ้ว แต่ไปซื้อสนามบินดีกว่า กลัวแตกก่อน
อีกอย่างบ้านเราจำกัดให้หิ้วแค่คนละ 1 ลิตร น้อยไป หุหุ


เดินไปทางโซน West Atrium กันเลย
ร้านแบรนด์เนมเพียบ


ถึงแล้วช้อปปิ้งเพลินๆ


ตรงนี้ชั้น 2 เจอร้าน Godiva และเข้าไปซื้อของฝาก



ไม่พลาดลองไอศกรีมเลย รสช็อคโกแลตเข้มข้นถูกใจสุดๆ


ตรงนี้ Sephora ก็มีนะคะ


5 โมงเย็นแล้วไปต่อที่ Clarke Quay กันค่ะ
ลง MRT สถานี Clarke Quay ไปออกทางออก
ห้าง Clarke Quay Central ค่ะ แล้วเดินตามป้าย
River Promenade ไปนะ 


ออกมาเจอแล้ว แดดร่มลมตกพอดี


เดินมาตรงสะพานด้านใน จะเห็นร้าน Jumbo Seafood อันโด่งดัง
เมนูปูผัดพริกอร่อย ได้รางวัลหลายปี จัดเลย
เพราะเดี๋ยวเย็นกว่านี้ต้องรอคิวนาน

ตรงหน้าร้านเค้ามีเครื่องหน้าจอให้กดใส่เบอร์โทร เราก็กรอกๆไป
แล้วเค้าจะเรียกเบอร์ เรียกชื่อ เลือกแบบแชร์โต๊ะเวลานี้ได้นั่งเลย
แต่ถ้าเอาโต๊ะเฉพาะเราอาจจะต้องรอเพราะส่วนใหญ่เป็นโต๊ะจอง
บอกแล้วไม่ธรรมดา

ได้โต๊ะแล้ว กินถั่วก่อน


สั่งแล้วอุปกรณ์ผ้ากันเปื้อน ที่บีบก้ามปู
และที่แคะเนื้อปูพร้อม


ไม่นานมาเสิร์ฟ ตัวนี้ 1 กระทะใหญ่เลย
คือตัวใหญ่มาก ขนาด 1.3 กก.


หอมสุดๆ ก้ามยักษ์ 2 อัน



กระดองมีมันอร่อยๆ


เนื้อปูสดสุดยอด รสชาติซอสผัดพริก
อร่อยเข้มข้น สมแล้วที่ได้รางวัลค่ะ
กระทะนี้ 102 เหรียญ แบ่งกันทานกับเพื่อนคนละครึ่ง
จุใจ ครึ่งตัวปริมาณเนื้อแกะได้เยอะอยู่ เต็มจานถ้วยกาแฟ
2 จานได้นะ ฉะนั้น 1 ตัวปริมาณเนื้อก็ 4 จานรองแก้วกาแฟน่ะ
ฟินมากจริงๆ




ข้าวผัดทะเล มีกุ้ง กับหอยเชลล์เน้นๆ


ผัดผักโขมสักจาน


อิ่มจุกค่าเสียหายมื้อนี้ค่ะ ผ้าเย็นฟรี แต่ถั่ว
และ น้ำชาคิดตังนะคะ มี Service Charge ด้วยอ่ะ
ต้องยอมนะเพราะกินปูเลอะผ้าปูโต๊ะกันทั้งนั้น



อิ่มแล้วเดินเล่นค่ะ ข้ามสะพานมาดู information กัน


ฝั่งนี้ก็จะเป็นร้านริมน้ำเป็นร้านอาหาร แนว ผับ
ตรงกลางก็เป็นร้านขายของค่ะ
ก็เก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ








ใครอยากมีประสบการณ์หวาดเสียวก็มีเครื่องเล่นนะคะ


แล้วก็เดินมาสุดอีกสะพานแล้วเดินกลับเข้าห้างเดิม


ไป MRT กลับไปลงสถานี Bugis ใกล้โรงแรม
เดินห้าง Bugis Plus ช้อปปิ้งกันให้สะใจค่ะ


3 ทุ่ม เดินกลับห้องระยะ 300 เมตรได้สบายๆ กินเชอรี่นอน

วันที่ 4
ก็ ตื่นสายๆ เก็บของสบายๆ เดินทางด้วย
MRT ลากกระเป๋า ไปซื้อตั๋ว MRT ไปสนามบินค่ะ
เพราะครบ 3 วันบัตรแบบทัวร์ที่ซื้อไว้ก็หมดอายุทันที

ถึงสนามบินก็เอาบัตรรถไฟฟ้าไปรับเงินคืน 10 เหรียญ
เข้า Terminal 2 เช็คอิน
เดินไปดูจุด Tax Refund คือไม่ได้ศึกษามา
ทำไม่เป็น และไม่มีเวลาแล้วค่ะ
ถ้าใครไปก็ลองไป Search วิธีการดูค่ะ


แล้วก็ผ่าน ตม. เข้าไปช้อปปิ้งใน Gate นิดหน่อย
โห ได้ใบเสร็จพิเศษด้วย ไปลงทะเบียนลุ้นโชค
ขอให้ได้ขอให้โดน สาธุ



และหาอะไรกินก่อนขึ้นเครื่อง
เป็นติมซำร้าน Hong Kong อีกแล้ว  





แล้วก็เดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพ ตรง Gate ขึ้นเครื่องเข้าแล้ว
เข้าเลยนะคะ สนามบินที่นี่ไม่เหมือนฮ่องกง เดินออกมาซื้อของไม่ได้แล้ว
จะเอาอะไรก็ซื้อให้เสร็จก่อนเข้าบริเวณ Gate ประตูออกเครื่องเลยค่ะ

สรุปค่าเสียหาย
-ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ แบบไม่โหลดกระเป๋า 3,700 บาท/คน
-ค่าโรงแรม 3,000 บาท/ห้อง/คืน (ไม่มีอาหารเช้า)
-ต่าตั๋ว Universal Studio ซื้อล่วงหน้าไป ผู้ใหญ่ 1,650 บาท เด็ก ประมาณ 1,300 บาทค่ะ
-ค่าเดินทาง, ค่ากิน, ค่าซื้อของแลกไป 25,000 บาท หมดเกลี้ยงค่ะ (ผู้ใหญ่ 1 คน เด็ก 1 คน)
-ซื้อซิมการ์ดตั้งแต่วันแรกอินเตอร์เน็ตไม่อั้น 28 เหรียญ ใช้ได้ 5 วัน
จะได้ไว้ Search Google Map แล้วให้ Navigator นำทางไปเลย
ประหยัดเวลาไม่หลงค่ะ
หวังว่าทริป 3 วัน จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆทุกท่าน ขอบคุณที่ติดตามค่ะ


ทริปวันที่ 1 Marina Bay Sand,
Gardens by The Bay , Orchard Road คลิก

ทริปวันที่ 2 ตะลุย Universal Studio คลิก