Last updated: 19 พ.ย. 2555 | 20240 จำนวนผู้เข้าชม |
มีโอกาสได้ไปเที่ยวเดินเล่นที่ฮ่องกงในช่วงเดือนเมษายน 2555 (ไม่ใช่ช่วง Sale แฮะ ปกติทุกปี Grand Sale จะเป็นช่วงประมาณ 1 ก.ค.-31 ส.ค.น่ะค่ะ) ไม่ได้มาเที่ยว 4 ปีแล้วหลังจากที่เคยมาตอน Grand Sale ปี 2551 บ้านเมืองจะเปลี่ยนไปขนาดไหน อากาศช่วงนี้จะเป็นยังไง ได้เที่ยวอะไรบ้าง และมีอะไรลดราคาให้ซื้อบ้าง มาเริ่มจากแผนการเดินทางท่องเที่ยวฉบับย่อกันก่อนเลยค่ะ
วันแรก
8.25 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์
12.20 น. โดยประมาณถึงสนามบิน Chek Lap Kok เดินทางไปฝั่งเกาลูนด้วย Airport Express แล้วต่อรถบัส
13.30 น. เช็คอิน The Royal Pacific Hotel ที่ Canton Road
14.00 น. รับประทานอาหารที่ the Sweet Dynasty
15.30 น. เดินทางไปไหว้พระและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดหวังต้าเซียน
16.50 น. เดินทางไปวัด Chi Lin Nunnery (วัดนางชี)
17.30 น. เดินเล่นในสวน Nan Lian Garden (ตรงข้ามวัดนางชี)
18.30 น. กลับมาแวะกินน้ำมะม่วงถนน Salisbury Road แล้วเดินต่อไปที่ Star Ferry เพื่อรอชม Symphony of Light
20.00 น. ชม Symphony of Light
20.30 น. เดินต่อไป Avenue of Stars
21.00 น. เดินกลับมาหาข้าวกินย่าน Hankow Road
21.45 น. เดินกลับมาที่โรงแรม เพื่อเดินช้อปปิ้ง Esprit Outlet ที่ตึกหน้าโรงแรมจน shop ปิด 23.00 น. ขึ้นห้องนอน
วันที่สอง
8.00 น. นัดรวมพลเดินไป Carnarvon Road
8.30 น. ทานติ่มซำที่ร้าน Tao Heung
9.45 น. เดินทางไป Repulse Bay
10.45 น. นมัสการเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าที่ Repulse Bay
12.00 น. ไปถึง Ocean Park แล้วใช้ชีวิตอยู่ในนั้น
19.00 น. ออกจาก Ocean Park แวะไปเดิน Apple Store ที่ตึก ifc building
20.30 น. กลับมาที่ฝั่งเกาลูน แล้วหาบะหมี่กิน แถว Carnarvon Road
22.00 น. เดินกลับมาที่ H&M shop ที่ Canton Road จน Shop ปิด 23.00 น. เดินกลับโรงแรม
วันที่สาม
8.00 น. นัดรวมพล เดินไป Cameron Road
8.30 น. ถึง ร้าน Charlie Brown Café สุดน่ารัก ตกแต่งด้วย theme snoopy ทั้งร้าน
10.00 น. เดินช้อปปิ้งแถว Nathan Road , G2000 shop, Giordano shop, Miramar Shopping Centre
12.30 น. เช็คเอาท์โรงแรม แล้วฝากกระเป๋า เดิน shopping ที่ตึกหน้าโรงแรมห้าง China Hong Kong City
14.00 น. เดินมาที่ H&M Shop ที่ Canton Road อีกครั้ง
15.00 น. ทานข้าว Food Republic ชั้น G ที่ The Sun Arcade
16.00 น. เดินกลับแวะร้าน Sasa แล้วไปเอากระเป๋าที่โรงแรม
17.00 น. ถึง City Gate Outlet ฝากกระเป๋าตู้หยอดเหรียญ เดินช้อปปิ้ง
20.00 น. ไปเอากระเป๋าออกจากล็อคเกอร์ ไปสนามบิน
20.30 น. เช็คอินเคาน์เตอร์สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ที่ Terminal 1 สนามบิน Chek Lap Kok เดินช้อปปิ้ง หาอะไรกิน แล้วไปที่ Gate
23.40 น. เครื่อง delay ขึ้นเครื่องประมาณ เที่ยงคืนกว่า
03.00 น. กลับถึงสุวรรณภูมิ
ทีนี้เรามาดูรายละเอียดการเดินทางกันเลยค่ะ
วันแรก 8.25 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ อาหารมื้อแรกทานบนเครื่องบินเป็นออมเล็ตกับเบคอน(รสชาติแบบว่ากินกันตาย)
เล่นเกมส์ดูหนังเพลินๆ อ่ะ 12.20 น. โดยประมาณถึงสนามบิน Chek Lap Kok เดินผ่าน ตม.แถวยาวเหยียด
แต่เค้าก็เคลียร์คิวเร็วนะคะ อันนี้ขอชมเชย สนามบินเค้าก็ใหญ่โต สะอาด แผนผังไม่สับสน สมแล้วที่เป็นสนามบินที่ดีติดอันดับต้นๆของโลก เราเดินออกมาตามป้ายเข้าเมืองด้วยสัญลักษณ์รูปรถไฟฟ้า ไปขึ้น Airport Express ที่จอดรออยู่ (ซื้อตั๋วก่อนขึ้นหรือซื้อตอนปลายทางก็ได้ค่ะ)
ประมาณ 10 นาที Airport Express ก็พาเราไปถึงสถานี Kowloon ออกจากสถานีด้วยการซื้อตั๋วเป็นบัตร Octopus ราคา HKD 150 โดยเป็นค่ามัดจำบัตร HKD 50 ส่วนอีก HKD 100 ไว้เดินทางได้ทุกอย่างทั้งรถบัส รถเมล์ รถไฟฟ้าค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนลดในการซื้อของตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าต่างๆได้ด้วยค่ะ (สอบถามเพิ่มเติมได้ ณ จุดจำหน่ายบัตร)
แล้วเราก็เดินตามป้ายออกมาที่ลิฟท์ไปชั้น G เพื่อต่อรถ Airport Express Shuttle Bus (ถ้าขึ้นไปชั้น U3 ก็เดินต่อไปเที่ยวตึก Sky 100 ได้เลย) อ่ะเราลงไปชั้น G แล้วไปขึ้นรถบัสสาย K2 (ที่จะไปจอดแถว Harbour City)
รถจะวนไปจอดตามจุด ถ้าไม่แน่ใจถามคนขับรถได้ค่ะว่าเราอยากลงตรงไหนเค้าจะบอกว่าป้ายที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหนก็ให้เราลงเดินต่อไป รถขับเข้าไปวนช่วงถนน Canton Road และ Harbour City เราลงป้ายสุดท้ายอยู่ด้านหลังโรงแรมเลยสบายจัง 13.30 น. เช็คอินที่โรงแรม The Royal Pacific Hotel ถนน Canton Road เช็คอินนานพอสมควรเพราะไปกันหลายคนห้องบางส่วนยังทำไม่เสร็จ ได้มาก่อน 1 ห้อง ไปดูห้องพักกันก่อนเลยค่ะ ห้องพักขนาดมาตรฐานที่ฮ่องกงก็แทบเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นโรงแรมใหญ่หรือเล็กเพราะที่ดินเค้าเป็นเงินเป็นทอง (เรียกได้ว่าแคบมาตรฐาน) แต่ไม่เป็นปัญหาค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ปลั๊ก 3 ขา 2 อัน ไดร์เป่าผม ทีวีจอแบน wifi free และที่เสียบชาร์ตไอโฟนก็มีไว้ให้บริการ เตียงผ้าห่มดูแล้วหลับสบายแน่คืนนี้ จอง The Royal Pacific Hotel กับ Agoda คลิก
เราก็ฝากกระเป๋าแล้วเดินออกไปตามถนน Canton Road มุ่งหน้า Harbour City ไม่กี่บล็อกก็เจอร้าน the Sweet Dynasty เข้าไปทานอาหารกัน มีอะไรให้ชิมบ้าง
ราคาประมาณนี้ สั่งบะหมี่มากันคนละชาม ของเราเป็นบะหมี่เกี๊ยวผักอร่อยดี แต่บะหมี่เค้าเส้นเล็ก(ลวกไม่ค่อยนิ่ม) เหมือนกันแทบทุกร้านนะคะ
แล้วก็สั่งขนมหวานเป็นพุดดิ้งมะม่วง อันนี้อร่อยแนะนำเลยค่ะ กับสาคูแคนตาลูป (อันนี้จืดไปนิดอ่ะ)
ค่าเสียหายรวม 9 คนก็ประมาณนี้
อิ่มท้องแล้ว 15.30 น. เดินทางต่อโดยเดินไปตามถนน Haiphong Road ร้าน Sasa นี่มีให้เห็นทุกมุมของถนน
ไปขึ้นรถไฟฟ้า MTR สายสีแดงสถานี Tsim Sha Tsui บรรยากาศในรถไฟฟ้าบ้านเค้าก็เป็นแบบนี้ คล้ายๆบ้านเราเลย
ไปลงสถานี Yau Ma Tei ต่อรถไฟสายสีเขียวไปลงสถานี Wong Tai Sin ไปที่ทางออก Exit B (Sik Sik Yuen Wong Tai Sin Temple) ไปไหว้พระและสักการะสิ่งศักด์สิทธิ์ที่วัดหวังต้าเซียน
เสร็จแล้วเราก็เดินกลับมาขึ้น MTR ที่สถานีเดิมหน้าวัดเพื่อนั่งต่อไปอีก 1 สถานี ลงที่สถานี Diamond Hill แล้วเดินออกที่ Exit C2 โผล่ขึ้นมาเจอประตูห้าง Plaza Hollywood แล้วเดินออกไปถนนตามป้ายเพื่อไปวัด Chi Lin Nunnery (วัดนางชี) 16.50 น. เข้าไปได้แค่ประตูชั้นแรกถ่ายรูป
เค้าจะปิดแล้วเวลา 17.00 น. เลยเดินออกข้ามสะพานด้านหน้ามาเดินเล่นที่สวนฝั่งตรงข้ามสวน Nan Lian Garden (ตรงข้ามวัดนางชี)
สูดอากาศสดชื่น เย็นสบายจนรู้สึกหนาวเพราะฝนปรอยเป็นละออง สวนสวยร่มรื่น ต้นไม้จัดสวยงาม แล้วก็เดินออกมาทางด้านที่ติดกับห้างที่เราขึ้นรถไฟฟ้ามา เดินกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าที่จุดเดิมสถานี Diamond Hill ในสถานีตรงทางเข้าเล็งไว้แล้วเค้กร้านนี้ maxim’s cakes หน้าตาสวยงามน่ากินโดยเฉพาะเค้กมะม่วง
สมาชิกลงความเห็นให้ซื้อไปกินเผื่อหิวในช่วงรอดู Symphony of Light อ่ะจัดไป 4 ชิ้น 3 แบบ ร้านข้างๆ มีน้ำมะม่วงขายขอลองชิมหน่อยขวดเล็ก 1 ขวดราคา HKD 17 อร่อยดีทีเดียว
ขึ้นรถไฟฟ้ากลับมาแบบเดิมมาต่อขบวนที่สถานี Yau Ma Tei ต่อสายสีแดงไปลงสถานี Tsim Sha Tsui เดินออกมาถนน Haiphong Road แล้วเดินต่อออกมาทางถนน Hankow Road มาโผล่ข้างๆโรงแรม Peninsula และ YMCA เป็นถนน Salisbury Road แล้วเดินต่อมุ่งหน้าไปทาง Star Ferry เดินผ่าน 1881 Heritage เป็นโรงแรมหรูและมี Shop ร้านค้าสวยงามแวะถ่ายรูปนิดหน่อย
ฟ้ามืดแล้วเดินต่อไปตามป้าย Star Ferry เจอร้านน้ำมะม่วงร้านนี้ HUI LAU SHAN ดูหน้าตาดี มีสูตรให้เลือกหลายสูตรและเห็นมีแทบทุกถนนอ่ะ ลองซักทีตามความเห็นของสมาชิก 1 แก้วราคาประมาณ 29-31 เหรียญ อร่อยดี
ลมเริ่มแรง อากาศหนาวกว่าที่คิดไว้เยอะ ก่อนไปเช็คอุณหภูมิประมาณ 23-25 องศา กะว่าเดินเล่นเย็นสบาย แต่ฝนก็ปรอยตลอดทำให้รู้สึกหนาวประกอบกับลมแรงมาก อ่ะสู้ต่อไป เดินต่อไปยัง Star Ferry เริ่มเห็นหอนาฬิกาแล้ว
เราก็ข้ามถนนไปยัง Star Ferry มีทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เป็นจุดจอดเรือและเป็นที่แสดงแสงสีเสียงเวลา 20.00 น. อ่ะยังไม่ถึงเวลาแสดงท้องเริ่มหิว แกะเค้กที่ซื้อตุนไว้มากินประทังชีวิตก่อน อืมม อร่อยดีแท้ ราคาตกชิ้นละประมาณ (60-80 บาท) ติดใจก็หาซื้อได้ตามสถานีรถไฟฟ้าค่ะเค้กร้านนี้ (maxim’s cakes)
ซักพักก็ได้เวลา Symphony of Light นักท่องเที่ยวเนืองแน่นมาจับจองที่ดูกัน สวยงามจริงๆ เสียงอู้อี้ไปบ้างแต่ก็ดูแสงสีเอาสวยงามดีค่ะ
เสร็จแล้วประมาณ 20.30 น. รวมพลเดินต่อไป Avenue of Stars ลมแรงมาก รู้สึกหนาวขึ้นทุกที มาแล้วต้องสู้ เจอรูปปั้นบรูซลีด้วย เดินต่อไปตลอดทางที่พื้นก็จะมีชื่อดารากับรอยประทับมือ รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง สังเกตว่าจุดไหนมีคนถ่ายรูปอันนี้น่าจะเป็นคนดัง เดินเกือบสุดทางถึงมาเจอรอยมือของเฉินหลง
สุดทางแล้วเดินข้ามสะพานลอยต่อไปลงอีกฝากเดินต่อไปเจอเหมือนลานมีสนามเด็กเล่น เดาทางไปเรื่อยไปโผล่ที่ถนน Middle Road แล้วเลี้ยวเข้าสู่ Nathan Road อ่ะ ไม่หลงแล้วตรงนี้ เดินต่อไปแถวห้าง iSquare แล้วเดินไปตามถนน Peking Road
แล้วเลี้ยวเข้า Hankow Road อีกครั้งเพราะเห็นป้ายร้านอาหาร หิวหน้ามืดแล้วไม่มีเวลาเลือกแล้วสามทุ่มแล้ว เข้าร้านนี้
สั่งตามอธัยาศัยกันเลย ของเราเป็นข้าวหน้าเนื้อ พอใช้ได้ไม่แย่แต่ติดมันเยอะไปหน่อยอ่ะ
21.45 น. อิ่มท้องแล้วเดินกลับมาที่ Canton Road กลับโรงแรม เพื่อเดินช้อปปิ้ง Esprit Outlet ที่ตึกหน้าโรงแรม ได้มาหลายชิ้นเหมือนกันเพราะซื้อครบ HKD 1,000 เค้าลดอีก 20% เอ้าสู้ตายอ่ะ มีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงได้มาหลายชิ้นอยู่เลือกกันจน shop ปิด 23.00 น. ขึ้นห้องนอน
วันที่สอง 8.00 น. นัดรวมพลเดินไป Cameron Road เจอถนน Carnarvon Road เลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลเจอ Carnavon Plaza มีป้ายร้านอยู่ ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 3
เวลา 8.30 น. ทานติ่มซำที่ร้าน Tao Heung (อันนี้ที่อยู่เค้าเผื่อใครหาไม่เจอค่ะ 3/F., Carnavon Plaza, 20-20C Carnavon Road, Tsim Sha Tsui) เค้าเปิด 7.30am-1.30am อาหารเป็นพวกติ่มซำ สั่งมาลองกันหลายอย่าง ร้านนี้แนะนำเลยค่ะอร่อยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นขนมจีบกุ้ง ฮะเก๋า เสี่ยวหลงเปา หมูผัดเต้าซี่ ซาลาเปาหมูแดง(ชอบมาก) และซาลาเปาไส้ครีม สั่งตามรูปภาพเอา
อิ่มท้องแล้วเราก็ไปกันต่อ 9.45 น. เดินออกไปขึ้นรถไฟฟ้า MTR ที่สถานี Tsim Sha Tsui ไปลงสถานี Central ทางออก Exit A ไปตามป้ายเพื่อไปตึก Exchange Square ขึ้นบันไดเลื่อนข้ามสะพานลอยเจอตึกแล้วลงบันไดเลื่อนเดินออกไปทางขวาเพื่อหาสถานีรถบัส เจอแล้วขึ้นรถบัสสาย 6
เพื่อไปลงป้าย Repulse Bay ระหว่างทางมีการไต่ระดับเขาขึ้นลง ได้ชมวิวบ้านเมืองเค้าเป็นเกาะ แต่สามารถสร้างที่อยู่อาศัยเล่นระดับได้อย่างน่าอัศจรรย์
อ่ะถึงแล้ว Repulse Bay 10.45 น. เดินลงไปที่ชายหาดตามป้ายไปสุดหาดเพื่อนมัสการเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าที่ Repulse Bay
ขอพร ทำบุญ อิ่มบุญกันแล้วเราก็เดินกลับมาจุดเดิมที่เราลงรถบัสเพื่อขึ้นรถไปยัง Ocean Park มองเห็นที่ปลายแหลมอีกด้าน ถามพนักงาน 7-11 ได้ความว่ารถเมล์จากป้ายหน้า Repulse Bay ที่ไป Ocean Park ได้คือสาย 73 และสาย 52 อ่ะเราขึ้นสาย 52 กันเป็นรถขนาดเล็กแบบนี้ใช้บัตร Octopus แตะเพื่อจ่ายเงินนั่งได้ทุกอย่างดีจริงๆที่นี่สะดวกสบายดีค่ะ
ไม่กี่ป้าย 2-3 ป้ายผ่านไปก็เห็นป้ายโฆษณาด้านซ้ายเป็นการ์ตูนเกือบเลยแล้วกดกริ่งแทบไม่ทัน ถึงแล้ว Ocean Park 12.00 น. (ค่าเข้า HKD 280 รู้สึกว่าถ้าซื้อ e-Ticket ล่วงหน้าจะประหยัดกว่าเล็กน้อยนะคะลองดู)
ซื้อบัตรแล้วกางแผนผัง พื้นที่เค้าใหญ่มากจริงๆเดินทุกจุดไม่ไหวทั้งเวลาไม่พอและกำลังขาคงไม่ได้แน่ต้องเลือกค่ะว่าจะไปตรงไหนบ้าง เดินเข้าไปส่วนพื้นที่ด้านหน้าเรียกว่า The Waterfront ซึ่งจะเน้นเป็นส่วนอาคารแสดงสัตว์ต่างๆ และมีเครื่องเล่นบ้างนิดหน่อย จุดแรกเจอ The Grand Aquarium เข้าไปก่อนเลย มีปลาดาวให้จับด้วย มีปลาหายาก มีตู้ปลาทั้งเล็กและใหญ่ให้เดินชมเพลิดเพลินเลย เด็กๆไปคงชอบค่ะ
หมดเวลาตรงนี้ไปเกือบ 1 ชม. กะว่าจะข้ามไปชมโชว์ปลาโลมาให้ทันรอบบ่ายสองโมงแต่ไม่ทันแล้วเพราะกว่าจะเดินไปขึ้นกระเช้าผ่านผู้คนมากมาย แถมผ่าน Old Hong Kong เป็นโซนร้านขายของ ร้านอาหาร ที่ทำเหมือนเมืองเก่า ชอบค่ะ
ผ่านเข้าไปเจอหางแถวกระเช้ายาวทีเดียว ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้ขึ้น แต่ขึ้นมาก็คุ้มค่ะวิวสวย หวาดเสียวบ้างแต่ชอบค่ะ (ถ้าไม่ข้ามไปด้วยกระเช้าก็มีทางเลือกให้ข้ามไปโดยรถไฟ Ocean Express ให้ตามป้าย Waterfront Station ไปค่ะ)
ไปลงกระเช้าอีกด้านเหมือนเป็นอีกเกาะเลยเรียกว่า The Summit เครื่องเล่นแบบโลดโผนเยอะเลยทีเดียวค่ะฝั่งนี้
ข้ามมาแล้วไปหาข้าวกินกันก่อนที่จุดลงกระเช้าเลย The Bayview Restaurant อาหารแพงทีเดียว 1 ชุดราคาเกือบ 500 บาท แต่ก็ต้องกิน(ไม่มีทางเลือก) เอาชุดนี้แล้วกัน Special Kids Combo ราคา HKD 138
อิ่มแล้วพอดีเดินออกไปดูโชว์ที่ Ocean Theatre ไปถึง 15.00 น. กะว่ามาจับจองที่ดูโชว์ปลาโลมาชิลๆ โอ้โหคนเยอะมากที่เกือบเต็มแล้ว ลงไปไม่ได้แล้วที่เต็มก็ต้องยืนเกาะรั้วดูด้านบน โชว์เริ่มเวลา 15.30 น. ปลาโลมาแสดงการกระโดด ว่ายน้ำ ช่วยเหลือชีวิตคนได้อย่างน่ารัก ต่อด้วยแมวน้ำแสนรู้ น่ารักจริงๆค่ะ
ดูโชว์เสร็จก็เดินวน เพื่อนๆเล่นเครื่องเล่นอีกนิดหน่อย ตลอดทางได้กลิ่นปลาหมึกหอมๆ มาลองซักหน่อย อร่อยใช้ได้เลยตัวใหญ่ สด ย่างบดมาอย่างดี หวานนำนิดๆ ราคา HKD 28
เดินเรื่อยไปแล้วไปดูสิงโตทะเลกันตรง Pacific Pier ดูเค้าว่ายน้ำเล่นซักพักน่ารักดีจัง
ระหว่างรอเพื่อนที่ไปเล่นเครื่องเล่นเราก็ไปขึ้นหอคอยอันนี้ วิวสวยงามดีจริงๆ ซูมกล้องเยอะตรงจุดแสดงปลาโลมาแบตเตอรี่กล้องหมดแล้วเสียดาย
อ่ะค่ำแล้วเดินกลับไปต่อแถวขึ้นกระเช้าต่างคนก็จ้องจะกลับเวลาใกล้จะปิดประมาณ 19.00 น. แถวยาวเลย เมื่อข้ามไปลงได้แล้วอีกฝั่งก็มืดพอดีเดินออกตรงน้ำพุมีแสงสีเสียงด้วยแต่เมื่อยกันแล้วเดินออกไปด้านหน้า เรียกแท็กซี่เพราะเมื่อยกันแล้วให้ไปส่งที่ตึก ifc Building ประมาณ 10 นาทีถึง หมดไปประมาณ 60 กว่าเหรียญ เพื่อไปดูของที่เพื่อนฝากซื้อที่ Apple Store ชั้น 2
แล้วลงไปใต้ตึกมีป้ายให้ลงไปขึ้น MTR ได้เลย จุดนี้เป็นสถานี Central ขึ้นกลับไปลงสถานี Tsim Sha Tsui ไปออก Exit D2 ไปโผล่ Carnarvon Road เดินออกมาไปหาบะหมี่กินเป็นร้านนี้
สั่งเป็นบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง รสชาติโอเคเลย
อิ่มแล้วเดินออกมาจากร้านไม่ไกลเจอห้าง K11 ร้านเริ่มปิดแล้ว สี่ทุ่มแล้วเดินกลับมาที่ H&M shop ที่ Canton Road
มีป้าย Sale กระโจนเข้าไปมีเวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง เลือกสรรมาได้หลายชิ้นพอสมควร เรื่องช้อปปิ้งสู้ตายค่ะ จน Shop ปิด 23.00 น. เดินกลับโรงแรม
วันที่สาม 8.00 น. นัดรวมพล เดินไป Cameron Road 8.30 น. ถึง ร้าน Charlie Brown Café’ สุดน่ารัก ตกแต่งด้วย theme snoopy ทั้งร้าน เมนูเป็นชุดอาหารเช้าราคาประมาณ 38-48 เหรียญ
เราเลือกชุดนี้แพนเค้กลายการ์ตูนน่ารัก พร้อมส้ม และน้ำส้ม
ของเพื่อนๆหน้าตาเป็นอย่างนี้
กาแฟ โกโก้ร้อน ก็หน้าตาน่ารักแบบนี้ค่ะ
อาหารเช้าชุดไม่ใหญ่เวลาพอมีห้างยังไม่เปิด สั่งเค้กมาลองทาน อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ เค้กมะม่วงโยเกิร์ต เค้กชาเขียว และทีรามิสุ (ในตู้เมื่อกี้มีชีสเค้กเป็นรูปหัว Snoopy ด้วย) ร้านนี้แนะนำเลยค่ะ
ถ่ายรูปกันไม่เบื่อเลยร้านนี้ทุกซอกทุกมุม 10.00 น. เดินออกมาช้อปปิ้งแถว Nathan Road , G2000 shop, Giordano shop, Miramar Shopping Centre
12.30 น. เดินกลับมาเพื่อเช็คเอาท์โรงแรม แล้วฝากกระเป๋า ยังช้อปปิ้งไม่จุใจเดินออกมาที่ตึกหน้าโรงแรมเป็นห้าง China Hong Kong City เพื่อซื้อของในห้างนี้ก็จะมี G2000 Outlet, Bossini Outlet ฯลฯ
14.00 น. เดินมาที่ H&M Shop ที่ Canton Road ฝั่งตรงข้ามเป็น Harbour City เก็บตกสิ่งที่อยากได้อีกครั้ง(ตอนกลางวันคนเยอะมาก)
หมดแรงแล้ว 15.00 น. ทานข้าว Food Republic ชั้น G ที่ The Sun Arcade เลือกชุดอาหารไต้หวันหน้าตาแบบนี้ อร่อยใช้ได้ทีเดียว ชุดนี้ HKD 38 มีข้าวในฝาปิดใส่ใส่เห็ดรวม ส่วนซุปเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวกับพวกซีฟู้ด อิ่มแปล้เลย
16.00 น. เดินกลับแวะร้าน Sasa ซื้อเครื่องสำอางและของฝากจุ๊กจิ๊ก แล้วไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วเราก็ลากกระเป๋าออกไปตามถนน Haiphong Road เพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Tsim Sha Tsui ไปลงสถานี Central แล้วดูป้ายเดินเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหรือสายที่ไป Disney Land นั่งไปลงสถานีปลายทางคือ Tung chung ขึ้นจากสถานีไปโผล่ที่ Citygate Outlet 17.00 น. เดินเข้าไปลงบันไดเลื่อน
ไปตามป้ายฝากกระเป๋าตู้หยอดเหรียญฝากไว้ 2 ชม. ตู้ใหญ่ราคา HKD 20 ตู้เล็กราคา HKD 10 ฝากเรียบร้อยแล้วเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย มีทั้งร้าน Club 21, Esprit, MNG, Adidas, Puma เป็นต้น ผู้คนมากมายจุดนี้ระวังแก๊งมิจฉาชีพกันด้วยค่ะ ได้ยินข่าวบ่อย ถ้าได้ยินไม่ผิดทางห้างมีประกาศเตือนเป็นระยะ
20.00 น. ไปเอากระเป๋าออกจากล็อคเกอร์ แล้วลากกระเป๋าออกไปตึกอีกด้านที่เป็นทางไป Food Republic ตรงด้านหน้าลิฟท์เป็นป้ายรถบัสไปสนามบิน สาย S1 ขึ้นเลยค่ะ
ประมาณ 15 นาทีเราก็มาถึง Terminal 1 สนามบิน Chek Lap Kok 20.30 น. เช็คอินเคาน์เตอร์สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ แล้วลงมาชั้นล่างตรงจุดจำหน่ายตั๋ว MTR เข้าเมืองเพื่อเอาบัตร Octopus คืน ได้เงินคืนมา HKD 81.7
แล้วขึ้นไปเดินช้อปปิ้ง Shop แบรนด์เนมที่นี่มีเยอะอลังการมาก ใครชอบก็เผื่อเวลาและเผื่อเงินมาจุดนี้ด้วยนะคะ แล้วก็ขึ้นไปหาอะไรกินสามทุ่มกว่าแล้วหิวจัง
กินเสร็จเห็น Disney Shop เดินเข้าไปซื้อของซักหน่อย
แล้วไปที่ Gate ซึ่งต้องลงบันไดเลื่อนไปขึ้นรถไฟนะคะ ประมาณ 2 นาที สนามบินเค้าใหญ่มากเผื่อเวลาเดินกันด้วยค่ะ พอไปโผล่อาคารที่เป็น Gate แล้วตรงนี้ก็ดูป้ายให้ดี Gate เค้ามี 500-600 Gate ทีเดียวอลังการมาก เราเดินไป Gate 62 เดินไป ดูของไป ตลอดทางมีของให้ซื้อให้ดูราคากันตลอด เรียกว่าเสียทรัพย์ได้ตลอดค่ะถ้าเผื่อเวลามา ห้าทุ่มแล้วง่วงเดินมานั่งรอที่ Gate 62 ดีกว่า 23.40 น. เครื่อง delay ขึ้นเครื่องประมาณ เที่ยงคืนกว่า หลับๆตื่นๆ เสิร์ฟอาหารมากินซะหน่อย เป็นสปาเก็ตตี้หมู เมนูนี้อร่อยดีแฮะ รสชาติเข้าท่ากว่าตอนขามาอ่ะ
กินเสร็จก็หลับไป 03.00 น. กลับถึงสุวรรณภูมิ ถึงบ้านตี 4 สลบเลย ตื่นสายมาอีกวันมาแกะกระเป๋า สิ่งที่ได้มาก็พวกขนมของฝากทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ แล้วก็เสื้อผ้าของร้านพวกนี้ที่ลดราคาแบบว่าไม่ซื้อไม่ได้แล้วเรื่องช้อปปิ้งโดยส่วนตัวก็สู้ตายอ่ะเพราะคิดว่าไม่ได้ไปกันบ่อยๆ หุหุ
หวังว่าการเดินทางที่ฮ่องกงครั้งนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ I HK จบแล้วค่ะ
หมายเหตุ- มีคนถามหลังไมค์ถึงค่าเสียหาย ขอแจกแจงคร่าวๆดังนี้ค่ะ
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับฮ่องกงแอร์ไลน์ 12,XXX บาท / คน (ช่วงหยุด 4 วัน เดือนเมษายน)
ค่าห้องพักโรงแรม 4,300 บาท/ห้อง/คืน
ค่ากินตกมื้อละประมาณ 200 บาท/คน
ส่วนค่าซื้อของกับค่ากินรวมๆกัน แลกเงินสดไปและใช้เครดิตการ์ดด้วยบวกลบคูณหารแล้วหมดไปประมาณ 18,XXX บาท
24 ต.ค. 2566
4 ก.ค. 2566
30 ก.ย. 2562
28 ก.ค. 2562