How to Plan Trip by Yourself

Last updated: 11 ม.ค. 2562  |  4343 จำนวนผู้เข้าชม  | 

How to Plan Trip by Yourself

การไปเที่ยวด้วยตัวเอง  ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าสนุกว่าไปกับทัวร์มากมาย เรามาวางแผนเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ด้วยตัวเองให้สนุกสนานไปด้วยกันค่ะ  เทคนิคนี้สามารถไปปรับใช้ได้ทุกท่านเลย เช่น ตัวอย่างในเนื้อหานี้ คือ ดิฉันวางแผนไปเที่ยวในเมืองโตเกียว 9 วัน 8 คืน วางแพลนล่วงหน้าเกินครึ่งปี เนื่องจากตั้งใจจะเที่ยวเองเรื่อยๆ สบายๆ ไปจุดที่อยากไป อีกอย่างเป็นการพักผ่อนใช้วันลาพักร้อนให้เต็มอิ่มไปเลยค่ะ พร้อมแล้วมาเริ่มวางแผนกัน



1.ซื้อตั๋วเครื่องบิน


เริ่มจากหาตั๋วเครื่องบินราคาโดนๆก่อนเลย
แล้วก็จองผ่าน web agent ชื่อดังนี่แหละค่ะ ได้ตั๋วไปกลับ แบบ full service ของ HongKong Airlines ราคาประหยัด 2 คน ไปกลับรวมแล้ว 21,000 บาท โดยแวะพักต่อเครื่องที่ฮ่องกง ช้ากว่าบินตรง 2 ชม. แต่ราคาโอเคและทริปยาวไม่รีบเร่ง ถือว่าโอเคมากกับราคาค่ะ เดินทางไป 14 ต.ค. กลับ 22 ต.ค. ส่วนเพื่อนๆ อาจจะหาจากโปรโมชั่นของสายการบินโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ หากเป็นสายการบิน Low Cost ราคาไปกลับรวมแล้วหาให้ได้ต่ำกว่า 10,000 บาท/คน  ก็พอมีให้เห็นเป็นช่วงๆ หรือ แบบ Full Service ของหลายสายการบินก็มีปล่อยโปรโมชั่นเรื่อยๆ ลองหาจนเจอราคาที่พอใจ แล้วจองเลยค่ะ



2.จองโรงแรม


เราก็พยายามดูโรงแรมที่ใกล้ สถานที่ท่องเที่ยวที่เราแพลนว่าจะไป ในราคาที่รับได้ โดยเฉพาะในโตเกียวเน้นที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ Metro เข้าไว้ค่ะ  และหมั่นดูราคา และจองยาวไปเลยที่เดียว 8 คืน พวก web agent ต่างๆ ก็จะส่งส่วนลดมาทาง email เรื่อยๆ เจอที่และราคาที่พอใจแล้วก็จองเลย
เราเลือก โรงแรมใกล้ สถานี Metro Idabashi เนื่องจากสถานีนี้ มี รถไฟใต้ดิน ผ่าน 4 สาย และมีทางเดินเชื่อมไปสถานี JR ด้วยค่ะ ทำให้การเดินทางไปเที่ยวสะดวกสบายดี


3.วางแผนเที่ยวแต่ละวัน


เราก็มาวางแผนเที่ยวแต่ละวันกันว่าวันไหนอยากไปไหน พร้อมกับจดวิธีการเดินทางล่วงหน้า ใส่โทรศัพท์มือถือ และส่ง Email เก็บไว้ พร้อมข้อมูลอื่นๆที่จำเป็น เอาให้ละเอียดที่สุดตั้งแต่ออกจากสนามบิน อย่างไรไปให้ถึงโรงแรม , การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไปกลับอย่างไร , เวลาเปิด-ปิด , ค่าเข้าชม , ประมาณเวลาเดินทาง และการเที่ยวชมแต่ละที่ เราก็จะได้ตารางการท่องเที่ยวแต่ละวัน พร้อมประมาณค่าใช้จ่ายบางส่วนไปด้วยในตัว และเตรียมแผนสำรองไว้ด้วยหากเปลี่ยนแผน หรือ บางที่ไปแล้วเที่ยวเสร็จก่อนเวลา ก็ไปเก็บจุดต่อไป หรือ สามารถสลับโปรแกรมในแต่ละวันได้ ก็จะดีค่ะ

*สำคัญว่าชื่อสถานที่ท่องเที่ยว และ ชื่อสถานีรถไฟฟ้าหรือการเดินทาง พยายามจดโน้ตเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วยนะคะ เพราะเวลาไปถึงสถานที่จริงหากหลงเราจะได้สะกดชื่อภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องเพื่อค้นหาจาก Google Map หรือ เวลาไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่หรือคนท้องถิ่น หากเป็นสถานที่ๆ คนไปเที่ยวน้อย หากเป็นไปได้ ให้ค้นหาชื่อเป็นภาษาท้องถิ่นแล้ว Copy วางไว้ในไฟล์ด้วยค่ะ สำหรับในโตเกียวนั้นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถไฟฟ้ามีภาษาอังกฤษ ง่ายค่ะ แต่ถ้าออกไปนอกเมืองตู้ซื้อตั๋วรถไฟบางทีไม่มีภาษาอังกฤษเราต้องขอความช่วยเหลือจากพนักงานประจำสถานีเลยค่ะ เค้าช่วยเราได้ไม่ต้องอายค่ะ และอย่าลืมว่าการหลงเป็นเรื่องปกติค่ะ เวลาเราไปที่จุดท่องเที่ยว บางทีอาจเลี้ยวผิดทาง ไม่ต้องกังวลเปิด Google Map แล้วเดินตามเลยค่ะ แน่นอนว่าอินเตอร์เน็ตมือถือเราต้องพร้อม แน่นอนว่าดู Step 4 เลยค่ะ ไม่พลาดการติดต่อสื่อสาร
 
คลิกดูแผนผังสถานี Metro ของญี่ปุ่นได้ที่ Link นี้ค่ะ มีภาษาไทยด้วย >> http://www.tokyometro.jp/en/subwaymap/



4.เตรียมการติดต่อสื่อสาร


การเดินทางและข้อมูลต่างๆ รวมถึงการติดต่อกับคนที่บ้าน การใช้ social media ต่างๆ ตอนนี้แนะนำให้ซื้อ Sim2Fly ของ AIS ไปเลยค่ะ ประเทศในแถบเอเชีย เดินทาง 8 วัน ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็ว 4 GB ได้ ราคาสบายๆ 399 บาท คุ้มมาก หากมี Sim อยู่แล้วก็นำไปเติมเงินได้เลย 299 บาทค่ะ ประหยัดกว่าใช้ Pocket Wifi มากๆ

คลิกรับชมการใช้ Sim2Fly รูปแบบคลิปวีดีโอ

 
คลิกอ่านรีวิวการใช้ Sim2Fly ที่ลิ้งนี้ >> https://www.nanareview.com/content/9432/sim2fly-ais-review

 


5.การเตรียมการ เรื่องอื่นๆ ก่อนเดินทาง
-แลกเงิน คำนวณจากการที่วางแผนท่องเที่ยวแต่ละวัน ค่าเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ค่าอาหาร 3 มื้อ หากกินตามร้านสะดวกซื้อง่ายๆ ไม่เกิน 200-400 เยน/คน/มื้อ หากกินข้าวกล่องตาม Supermarket ก็ 400-600 เยน/คน/มื้อ ถ้าซื้อช่วงสองทุ่มราคาก็จะลดลงอีกค่ะ ถ้ากินตามร้านอาหารก็ประมาณ 800-2,500 เยน/คน/มื้อ แล้วแต่ว่าเลือกร้านหรูระดับไหนค่ะ ซึ่งเราไปเป็นคู่แม่ลูก อาหารบางทีสั่งชุดเดียวก็กินได้ 2 คนค่ะ เพราะปริมาณ 1 ชุดเยอะอยู่ค่ะ


-ซื้อประกันการเดินทาง จำเป็นมากหากเกิดอะไรระหว่างเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือ กระเป๋าเดินทางหาย เครื่องบินล่าช้า เราจะได้รับเงินชดเชยค่ะ อย่าคิดว่าไม่จำเป็นนะคะ หากเราเกิดหกล้มแขนหัก , ปวดท้องต้องเข้าโรงพยาบาล หรือ ไส้ติ่งแตก เหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นได้ค่ะ ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นต่างประเทศแพงมากๆ เราต้องซื้อความคุ้มครองไว้ค่ะ
ซึ่งเค้าจะมีแผนให้เลือกราคาก็ต่างกันไป หากซื้อเป็นครั้ง ก็ประมาณ 700-2,000 บาท/1ทริป แล้วแต่เราเลือก หากเดินทางบ่อยคือ คิดแล้วว่าภายในปี เดินทาง 3-4 ครั้งขึ้นไป แนะนำให้ซื้อเป็นรายปีไปเลยค่ะ และเลือกวงเงินคุ้มครองสูงสุด ที่จ่ายไปก็ประมาณ 8,000 กว่าบาท หากเป็นเด็ก เค้ามักจะให้เลือกแผนเล็กสุดและซื้อได้แค่ครั้งต่อครั้ง ก็จ่ายไปค่ะของลูก 750 บาท/1ทริป ค่ะ


-เอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือเดินทาง , บัตรประชาชน , E-ticket ตั๋วเครื่องบิน , เอกสารการจองโรงแรม , ที่อยู่ และเบอร์โทรติดต่อคนที่เป็นญาติหากเกิดเราติดปัญหา ทุกอย่างให้ Save ไว้ในโทรศัพท์มือถือ , ส่ง Email เข้าตัวเอง และ มีสำเนาเอกสารพับไว้ติดตัวในกระเป๋าเราค่ะ


-ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ไข้ แก้ปวด แก้ปวดท้อง ติดไปด้วยจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อค่ะ


-เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศ ตรวจเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าและจัดกระเป๋าเสื้อผ้าให้เหมาะสม หากไปหลายวัน ก็เอาไป 3-4 ชุด เพราะมีเวลาซักผ้าหยอดเหรียญได้ค่ะ ครั้งละ 300 เยน ประหยัดพื้นที่และน้ำหนักกระเป๋า ไปซื้อใหม่ที่โน่นบ้างก็เป็นเป้าหมายอยู่แล้วด้วย แฮ่ๆ

เช็คสภาพอากาศเมืองต่างๆที่จะไปได้ ทั้งแบบรายสัปดาห์ หรือ รายเดือนได้ที่ลิ้งนี้ค่ะ >> https://www.accuweather.com/en/th/bangkok/318849/october-weather/318849

 

-เตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทาง ต้องไม่ลืมว่า มีบางสิ่งห้ามโหลดขึ้นเครื่อง และบางสิ่งห้ามพกพาขึ้นเครื่องนะคะ ดูรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ได้จาก เว็บแอร์เอเชีย ลิ้งนี้ค่ะ >>https://www.airasia.com/th/th/baggage-info/dangerous-goods.page


เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็ไปเที่ยวกันเลยค่ะ

Tokyo Trip Part1 เที่ยวโตเกียว 9 วันด้วยตัวเอง ตอนที่ 1 >> https://www.nanareview.com/content/9436/tokyo-trip-part1-


************

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้