Robuchon Bangkok Michelin Guide Bangkok 2018

หลังจากที่ทราบผลการแจกดาวมิชลินครั้งแรกของกรุงเทพ และครั้งแรกของประเทศไทยในงาน Michelin Guide Bangkok 2018 ชื่อของร้าน  L’ATELIER de Joël Robuchon Bangkok
ลัตตาลิเย่ร์ เดอ โจเอล โรบูชอง กรุงเทพ

ก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างไร้ข้อกังขา สำหรับตัวเรานั้นประทับใจอยู่แล้ว หลังจากร้านได้ดาวมิชลินครั้งแรกของประเทศไทยก็ขอไป Update รสชาติกันสักหน่อยค่ะ

 

ต้องกล่าวถึงเจ้าของร้านก่อน ท่านนี้ค่ะ

เชฟ Joël Robuchon
เจ้าของฉายา "เชฟแห่งศตวรรษ"
ผู้ ครอบครอง Michelin Star จำนวนมากที่สุด
ในประวัติศาสตร์วงการอาหาร คือ สูงถึง 25 ดวง! ได้มาเปิดสาขาของร้านที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปี 2558
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ตึกมหานคร คิวบ์ นะคะ ติด BTS Chong Nonsi

Credit Picture : Joël Robuchon/Twitter https://goo.gl/BP9Nw7

แน่นอนว่าเชฟที่ประจำการที่สาขากรุงเทพยังคนเดิมค่ะ

Chef Olivier Limousin   : Executive Chef

เชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาว จากสาขาลอนดอนประวัติการทำงานสั้นๆ เป็นเชฟตั้งแต่อายุ 18 ปี และทำงานกับร้านของเชฟโจเอล โรบูชอง มากว่า 12 ปี ย้ายมาประจำการที่นี่ตั้งแต่ร้านเปิดค่ะ  หืมม hashtag #เชฟหล่อบอกต่อด้วย ทันทีจ้าร้านนี้ หุหุ เชฟเป็นคนใจดี อัธยาศัยดี ไปทักทายถามเรื่องอาหาร ชวนคุยได้เลยค่ะ

 

ร้านตกแต่งด้วยสีแดง เรียบหรู ถ้านั่งเคาน์เตอร์
ก็จะได้เห็นเชฟทำอาหารกันสดๆ เลย สมกับ
ชื่อร้าน L'ATELIER แปลว่า ห้องปฏิบัติการ

 

มาวันนี้เป็นโอกาสฉลองวันเกิดย้อนหลังด้วย เชฟโชว์เมนูเองกับมือ ปลื้มสุดๆ ได้ดูเชฟทำงาน และมาเสิร์ฟอาหารให้ด้วยตัวเอง

คลิกชมคลิป Clip

 
มาถึงก็รับขนมปังกันก่อนค่ะ หยิบได้เลย เราชอบแบบเนยกลมๆ นะ นุ่มดี หอมดี

 

เริ่มด้วย Complimentary

Pour Commencer
Crisp and soft quinoa, smoked piquillo flavors
ในถ้วยด้านล่างเป็นตับห่าน ชั้นกลางเป็น port wine reduction และ
ด้านบนเป็นโฟมที่ทำจากชีส เวลากินตักให้ครบทุกชั้น รสชาติตับห่านผสานความมันและมีความเปรี้ยวของซอสตรงกลาง ดีงามมากจริงๆ เสิร์ฟกับคีนัวที่มีผิวกรอบด้านนอก

 

Le Caviar Imperial
A Surprise of Sologne Imperial caviar
ตรงกลางด้านบนเป็นไข่ปลาคาร์เวียร์ชั้นเลิศ ใต้ไข่ปลาเป็นเนื้อปูอลาสก้า ส่วนรอบๆ เป็นวุ้นรสล็อบสเตอร์ มีทั้งความหวาน มัน เค็ม และกลิ่นแบบทะเลอ่อนๆ ฟินสุดชีวิตบอกเลย

 
เสิร์ฟคู่กับไวน์
2011 Passion Blanche, Vin de Pays des Cotes Catalanes, Bernard Magrez

 
Le Foie Gras
Duck foie gras mille-feuille with caramelized smoked eel, Japanese flavors
เห็นขนาดเท่านี้คือ ตัด กินได้ 3 คำ ค่ะ แต่วิจิตรบรรจงมากทั้งหน้าตาและรสชาติ  คือการวางสลับชั้นของตับห่านกับเนื้อปลาไหลญี่ปุ่นย่าง  รสชาติของตับห่านกับปลาไหลญี่ปุ่นย่างมีกลิ่นและรสที่มีมิติเข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ ที่ขอบจาน 3 ขีด เล็กๆ คือ สามารถเพิ่มรสชาติด้วย หอมซอย พริกไทย และซอสครีม ส่วนมุม 2 ข้างเป็นขนมปังนุ่มๆ และสลัดแอปเปิ้ล กินปิดท้ายล้างปากได้พอดี

 

L’ARTICHAUT
Roasted artichoke on a thin puree, chickpeas cappuccino scented with turmeric
เป็นซุปอาร์ติโช้คในซอสครีมที่มีความมัน อร่อย อาร์ติโช้คตรงกลางผิวนอกกรอบด้วย เลิศประเสริฐล้ำจริงๆ  

 

เสิร์ฟคู่กับไวน์
2013 Gmajne Chardonnay, Primosic Collio Doc

 

LA DORADE
Seared japanese seabream served with salsify and ‘matelote’ sauce
จานนี้เป็นเมนคอร์สแล้วค่ะ เป็นปลาตระกูลเดียวกับปลากะพงญี่ปุ่น เนื้อหนา หนังก็หนา แต่ไม่เหนียวนะ เสิร์ฟมากับเห็ด ซอสไวน์แดง และตกแต่งด้วยรากไม้ ปลื้มมากมายกับรสชาติไวน์แดงปกติเป็นซอสราดเนื้อ แต่ทำมาเป็นซอสราดปลาโหยยยย อร่อยลืมตายอ่ะ

 
เสิร์ฟกับมันบดสุดเนียน ละมุน ของร้านค่ะ

 

ของหวานค่ะ
La Mangue Perroquet
Mango ‘Perroquet’, black sesame, exotic fruits
*The menu served on The Gala Dinner Night, celebrate  Michelin Star Bangkok 2018
และพลาดไม่ได้กับเมนูนี้ค่ะ เป็นเมนูที่เชฟบอกว่าทำขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟในงานฉลองกาล่าดินเนอร์ Michelin Guide Bangkok 2018 คือ คิดมาแล้วว่ามะม่วงเป็นวัตถุดิบที่ดีและหาง่ายในบ้านเรา แต่การนำเสนอสิไม่ธรรมดาค่ะ

รอบๆ คือ เนื้อมะม่วงสุก ซอสมะม่วง ซอสงาดำ สปอนจ์เค้กงาดำ
ตัวลูกมะม่วง ด้านนอกเคลือบด้วยไวท์ช็อคโกแลต ด้านในเป็นมูสรสมะม่วงที่นุ่มละมุนรสอ่อนๆ ชั้นในสุดเป็นซอสรสเปรี้ยวที่มีกลิ่นมะม่วงปริมาณเยอะอยู่ ไหลเป็นลาวาได้เลย กินแล้วตัดกันดีงามมาก สุดยอดจริงๆค่ะ

 

เสิร์ฟกับไวน์ตัวนี้
2011 Muscat de Beaumes-de-Venise, Maison Paul Jaboulet Aine

ของแถมก่อนกลับ ขนมอบ ช็อคโกแลต และเครื่องดื่มร้อน ชา/กาแฟ

เป็นแขกของเชฟ เชฟก็ไม่ให้กลับง่ายๆ ลูกเล่นเยอะมาก มี Surprise อีกต่อ ด้วยการนำทีมและเจ้าหน้าที่อีก 2 ท่าน มาร้องเพลง Happy Birthday เป็นภาษาฝรั่งเศสให้ พร้อมเค้ก และเทียน น้ำจะไหล แค่มาเป็น Guest ของเชฟก็ปลื้มมากแล้ว

เป่าเทียนแล้วก็ต้องกินอย่างเอร็ดอร่อย เป็นมูสช็อคโกแลต ด้านในมีซอสเบอร์รี่ค่ะ

 

เชฟเขียนการ์ดให้ด้วย ปลื้มปริ่ม ถือเป็นการมาฉลองวันเกิด พร้อมกับการชิมที่ประทับใจที่สุดก็ว่าได้นะ 

แน่นอนว่าต้องมีการขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันจ้า ใครเป็นลูกค้าที่นี่ เชฟชวนมาถ่ายรูปด้วยแทบทุกคน

หากเชฟยุ่งๆ ไม่ต้องเขิน แจ้งพนักงานได้เลย เค้าหาจังหวะให้ได้ค่ะ

เชฟใจดี คุยได้ เข้าถึงได้ทุกคน นี่เป็นอีกจุดที่ประทับใจมากมายทุกครั้งที่มาร้านนี้ค่ะ
 

สำหรับใครที่มองหาร้านอาหารระดับดาวมิชลิน ก็อย่าลืมคิดถึงร้านนี้นะคะ รสชาติ และการนำเสนออาหารเค้าไม่ธรรมดาจริงๆ  มาได้ทุกโอกาสพิเศษ เมนูไม่ต้องกลัวแพง มีเมนูราคาธรรมดาๆ ให้สั่ง ให้เลือกได้ ราคาระดับเดียวกับอาหารญี่ปุ่นในห้าง ลองมาแล้วจะประทับใจจ้า

 
L’ATELIER de Joël Robuchon Bangkok
ลัตตาลิเย่ร์ เดอ โจเอล โรบูชอง กรุงเทพ
5F Mahanakhon Cube  (ตึก มหานคร คิวบ์)
สีลม บางรัก กทม.
สอบถาม Tel.02-001-0698
ติดตามข้อมูลและข่าวสารของร้านได้จาก

http://www.robuchon-bangkok.com/
https://www.facebook.com/atelier.bkk

***********